ปีที่ 37 ในรัชสมัยของพระเจ้าหมิงเซิ่นจงแห่งราชวงศ์หมิง ณ เขตการปกครองมณฑลตู้ทางตอนใต้ของแม่น้ำแยงซี เกิดเหตุคดีฆาตกรรมขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตัวตนของผู้ตายแต่ละคนแตกต่างกัน และไร้ซึ่งความข้องเกี่ยวกัน ศพถูกจัดอยู่ในท่าทางที่แปลกประหลาดไม่เหมือนกัน ทุกคดีล้วนได้ทิ้งหนึ่งประโยคไว้ในที่เกิดเหตุ ในฐานะเป็นศิษย์ของ เหลิ่งอู๋จวี๋ หรือ มือปราบเหลิ่ง (รับบทโดย -) เหยื่อรายแรกที่ถูกฆาตกรรม เจ้าหน้าที่กองปราบ “ฉวี่ซานเกิง” (รับบทโดย ไป๋อวี๋ฟาน) ไม่ค่อยเชื่อน้ำยาของเจ้าหน้าที่กองปราบคนอื่นๆ ว่าจะจับคนร้ายได้ เขาจึงตั้งทีมนักสืบวัยเยาว์ โดยร่วมมือกับเพื่อนๆ อันมี เพื่อนเจ้าหน้าที่กองปราบ “เกาซื่อถง” (หลิวอี๋ถง) และ บัณฑิตระห่ำจอมฟั่นเฟือน “เฟิ่งเข่อจุย” (รับบทโดย จางฮ่าวเหวย) เพื่อทำการสืบสวนคดีประหลาดนี้ด้วยกัน ตามที่ได้รับปากกับ “เหลิ่งกุ้ยเอ๋อร์” (รับบทโดย เซี่ยงหานจือ) ลูกสาวมือปราบเหลิ่งเอาไว้ว่าจะจับตัวฆาตกรโหดที่ฆ่าพ่อของนางให้ได้ โดยคดีนี้ มี ซ่งเฉิน (รับบทโดย หนิงหลี่) เป็นผู้พิพากษาของอำเภอตู้ รับผิดชอบในการตัดสินคดี เมื่อสืบลึกลงไปเรื่อยๆ ทุกศาสนา ทุกสายอาชีพ ผู้คนจากหลากหลายอาชีพ ชาวบ้าน พ่อค้า และอื่นๆ ต่างทยอยปรากฏตัวขึ้นในฐานะผู้เกี่ยวข้องกับคดี ฉวี่ซานเกิง กับเพื่อนๆ สืบหาเบาะแสที่คนร้ายพยายามทิ้งข้อความผ่านร่างของเหยื่อแต่ละราย คนละหนึ่งข้อความ จนพบว่ามันเป็นประโยคจากคัมภีร์หลุนอวี่ เหมือนกับว่าฆาตกรอยากให้ทุกคนได้เห็นความอยุติธรรมที่เขาเคยพบเจอมา ท่ามกลางความซับซ้อนของคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง คดีเก่าเหตุการณ์ไฟไหม้บ้านตระกูลลู่เมื่อยี่สิบปีก่อนกลับแดงขึ้นมาสร้างความวุ่นวายสับสนเพิ่ม ใครกันที่เป็นฆาตกร? และเขาทำไปด้วยจุดประสงค์อะไรกันแน่?